เที่ยววัด ไหว้พระศักดิ์สิทธิ์ วัดใกล้กรุงเทพฯ แบบเช้าไปเย็นกลับ อีกหนึ่งกิจกรรมวันสำคัญทางศาสนา คือการไหว้พระเข้าวัดทำบุญ ให้จิตใจผ่องใส วัดที่อยู่ใกล้กรุงเทพฯโดยท่านสามารถเดินทาง 2-3 ชั่วโมง ก็ถึงวัดได้
1. วัดหน้าพระเมรุ
วัดหน้าพระเมรุมีชื่อเดิมว่าวัดพระเมรุราชการาม เป็นวัดโบราณวัดเดียวในอยุธยาที่ยังคงสภาพสถาปัตยกรรมแบบอยุธยาที่สมบูรณ์มากที่สุด เนื่องจากเป็นวัดที่พม่าเคยใช้ตั้งกองบัญชาการรบ จึงไม่ได้ถูกพม่าเผาทำลาย แต่ไม่ปรากฏหลักฐานว่าใครเป็นผู้สร้างและสร้างในสมัยใด สันนิษฐานว่าน่าจะเป็นวัดสร้างขึ้นตรงที่ถวายพระเพลิงกษัตริย์องค์ใดองค์หนึ่ง พระอุโบสถเป็นแบบอยุธยาซึ่งมีเสาอยู่ภายใน แต่น่าจะมาเพิ่มเสารับชายคาที่หลังในรัชสมัยสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศ พระประธานในอุโบสถซึ่งสร้างปลายสมัยอยุธยา เป็นพระพุทธรูปทรงเครื่องหล่อสำริดมีความงดงามมาก เป็นวัดยอดนิยมอีกแห่งหนึ่ง นักท่องเที่ยวมักเดินทางมานมัสการหลวงพ่อพระพุทธนิมิตวิชิตมารโมลีศรีสรรเพชญ์บรมไตรโลกนาถอันศักดิ์สิทธิ์
2. วัดพนัญเชิงวรวิหาร
วัดพนัญเชิงวรวิหารเป็นวัดที่มีประวัติอันยาวนาน สร้างก่อนการสถาปนากรุงศรีอยุธยา และไม่ปรากฏหลักฐานที่แน่ชัดว่าใครเป็นผู้สร้าง มีชื่อเสียงมากเรื่องหลวงพ่อโต พระพุทธรูปขนาใหญ่ที่สุดในพระนครศรีอยุธยา หน้าตักกว้าง 20 เมตรเศษ สูง 19 เมตร เป็นพระพุทธรูปปูนปั้นปางมารวิชัย เคยได้รับความเสียหายในสมัยเสียกรุง แต่ก็ได้รับการบูรณะซ่อมแซมมาโดยตลอด จนกระทั่งในสมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวแห่งกรุงรัตนโกสินทร์ เมื่อ พ.ศ. 2497 ได้โปรดเกล้าฯ ให้บูรณะใหม่หมดทั้งองค์ และพระราชทานนามใหม่ว่าพระพุทธไตรรัตนนายก หรือที่รู้จักกันในหมู่พุทธศาสนิกชนชาวไทยเชื้อสายจีนว่าหลวงพ่อซำปอกงหรือเจ้าพ่อซำปอกง พุทธศาสนิกชนทั้งชาวไทยและชาวจีนต่างให้ความเคารพนับถือมาช้านาน มาวัดนี้ไม่ต้องแปลกใจถ้าพบเจอผู้คนจำนวนมากที่ไหลเวียนมานมัสการหลวงพ่อโตกันอย่างเนืองแน่น
3. วัดท่าการ้อง
เป็นวัดเก่าแก่สร้างขึ้นราวๆ ก่อนปี พ.ศ. 2092 สันนิษฐาว่าคงเป็นวัดที่ราษฎรสร้าง เพราะไม่ปรากฏรายชื่อพระอารามหลวงสมัยอยุธยาตามบันทึกพระราชพงศาวดาร ทุกวันนี้เมื่อเราเข้าสู่วัดก็จะยังได้ยินเสียงนกการ้องระงมสมชื่อวัดไม่ผิดจากอดีต แต่สิ่งที่ดูทันสมัยไฮเทคจนแปลกกว่าวัดอื่นๆ จนเรียกได้ว่าเป็นเอนเตอร์เม้นท์คอมเพล็กซ์ด้านศาสนา ก็คือพวกตุ๊กตาปูนปั้น หุ่นคน หุ่นสัตว์ บางตัวมีกลไกลแมคานิคขยับได้ และเครื่องเสี่ยงทายออโตเมติกต่างๆ และที่เด็ดสุดคือห้องน้ำติดแอร์ ได้รับรางวัลชนะเลิศการประกวดสุดยอดส้วมแห่งปีระดับประเทศ ปี 2549 ประเภทวัดและศาสนสถาน นอกจากจะได้มาไหว้พระ สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ตรวจดวงชะตากันแล้ว ด้านหลังของวัดท่าการ้องได้จัดให้เป็นตลาดน้ำ ขายพวกของกินหลากหลายชนิด ทั้งก๋วยเตี๋ยวเรือ ข้าวผัด ของกินเล่น ราคาของกินที่นี่ราคาก็ไม่แพง ตลาดน้ำวัดท่าการ้องจะเปิดทุกวันเสาร์ – อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์
4. วัดหลวงพ่อปากแดง
วัดพราหม์มณี ถือเป็นวัดเก่าแก่วัดหนึ่งใน จ.นครนายก มีพระประธานศักดิ์สิทธิ์ ที่เป็นที่เคารพนับถือกันอย่างกว้างขวาง มีชื่อว่า “หลวงพ่อปากแดง” เป็นพระพุทธรูปปางสมาธิ สร้างด้วยโลหะสัมฤทธิ์ หน้าตักกว้าง 49 นิ้ว สูง 1 เมตร เป็นศิลปะสมัยล้านช้าง จีวรเป็นลายดอกพิกุล พระโอษฐ์แย้มทาสีแดงเห็นชัด ชาวบ้านจึงเรียกว่า “หลวงพ่อปากแดง” สิ่งที่เด่นสะดุดตา คือ ที่ปากของหลวงพ่อมีสีแดงสด เหมือนมีผู้นำลิปสติกไปทาไว้ ผู้เฒ่าผู้แก่ย่านนั้นยืนยัน ว่าเห็นปากท่านแดงแบบนี้ มาตั้งแต่เกิด พระครูโสภณพรหมคุณ หรือ “หลวงพ่อตึ๋ง” เจ้าอาวาสวัดพราหมณี เล่าว่าตำนานเชื่อกันหลวงพ่อปากแดง เป็นพระพุทธรูปพี่น้องกับหลวงพ่อพระสุก และหลวงพ่อพระใส ที่ประดิษฐานอยู่ที่ จ.หนองคาย ในปัจจุบัน ที่ได้อัญเชิญมาจากนครเวียงจันทน์ พอมาถึงประเทศไทย ชาวบ้านได้แยกย้ายไปตามวัดต่างๆ ส่วนหลวงพ่อปากแดงนั้น ถูกชาวบ้านอัญเชิญและนำมาหยุดยังพื้นที่ว่างบริเวณที่เป็นวัดพราหมณีปัจจุบันนี้ จากนั้นก็ลงมือสร้างวัดแล้วก็อัญเชิญองค์หลวงพ่อขึ้นเป็นพระประธานในพระอุโบสถ ซึ่งต่อมา “หลวงพ่อปากแดง” ก็กลายมาเป็นพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ของชาว จ.นครนายก จนทุกวันนี้
5. วัดป่าเลไลยก์
วัดเก่าแก่อายุกว่า 1,200 ปีที่มีชื่อเสียงที่สุดในจังหวัดสุพรรณบุรี ทุกวันจะมีผู้คนจากทั่วสารทิศแวะเวียนมาไม่ขาดสาย โดยเฉพาะการมากราบไหว้หลวงพ่อโต พระพุทธรูปปางปาลิไลยก์ ศิลปะสมัยอู่ทองสุพรรณภูมิ สูง 23.46 เมตร พระพุทธรูปคู่บ้านคู่เมืองของสุพรรณบุรี นอกจากนี้ภายในบริเวณวัดยังมีสถานที่น่าสนใจอีกไม่น้อย เช่น “บ้านขุนช้าง” เรือนไทยโบราณแบบคหบดีที่สร้างขึ้นตามคำพรรณนาในนิทานคำกลอนเรื่องขุนช้าง – ขุนแผน, หอศิลป์อนุสรณ์ สุรพล สมบัติเจริญ รวมไปถึงจิตรกรรมฝาผนังเรื่องขุนช้าง – ขุนแผน ที่บริเวณรอบวิหารหลวงพ่อโต ให้ผู้ที่มาทำบุญไหว้พระ ได้หย่อนใจกันอีกด้วย
6. วัดไผ่โรงวัว
วัดที่มีชื่อเสียงของจังหวัดสุพรรณบุรี ด้วยสถาปัตยกรรมปูนปั้นสวรรค์ – นรก ที่แสดงภาพบาปบุญคุณโทษให้เห็นได้อย่างเป็นรูปธรรม นอกจากรูปปั้นมากมายที่น่าตื่นตาตื่นใจแล้ว ภายในวัดยังมีพระพุทธโคดม พระพุทธรูปโลหะสำริดองค์ใหญ่ที่สุดในประเทศ ที่ใช้เวลาก่อสร้างนานถึง 17 ปี (พ.ศ. 2502-2519) และพระกกุสันโธ พระพุทธรูปองค์ใหญ่สีขาว ปางมารวิชัย สูง 28 วา 2 ศอก หน้าตักกว้าง 20 วา เป็นดั่งสัญลักษณ์ของวัดที่สามารถมองเห็นได้จากระยะไกล
7. วัดเกริ่นกฐิน
เป็นหนึ่งในวัดที่มีความสำคัญที่สุดแห่งหนึ่งของจังหวัดลพบุรี อีกทั้งยังเป็นวัดที่มีความสวยงาม กว้างขวาง และถึงวัดแห่งนี้จะไม่ได้ตั้งอยู่ในตัวเมือง แต่ด้วยพลังศรัทธาของพุทธศานิกชนที่หลั่งใหลสู่วัดเกริ่นกฐินนั้นต่างก็มาด้วยความศรัทธาในหลวงพ่อเพี้ยนละเข้าไปกราบหลวงพ่อซึ่งทุกครั้งที่ประชาชนเข้าไปหลวงพ่อท่านจะนั้งอยู่ภายในศาลาคอยประพรมน้ำมนต์ให้แก่พุทธศาสนิกชน จึงทำให้ชื่อเสียงของหลวงพ่อนั้นเลื่องลือไปไกลและมีศิษย์ยานุศิษย์มากมายทั่วสารทิศ
8. วัดขุนอินทประมูล
พระพุทรูปปางไสยาสน์ที่มีความยาว 50 เมตรองค์นี้ ถือว่าเป็นพระนอนที่มีความยาวที่สุดในประเทศไทย ประดิษฐานอยู่ที่วัดขุนอินทประมูล อำเภอโพธิ์ทอง จังหวัดอ่างทอง รอบๆองค์พระจะเห็นโครงสร้างของเสาพระวิหารที่แม้จะหักพังไปนาน แต่บรรยากาศโดยรอบมีต้นไม้ขนาดใหญ่ขึ้นล้อมรอบ ทำให้รู้สึกไม่ร้อนเกินไปนัก เหมาะแก่การพาครอบครัวไปนมัสการเพื่อเป็นสิริมงคล ดังคำกล่าวที่ว่า “ไหว้พระนอนยาวแล้วชีวิตจะยืนยาว”
9. วัดพระพุทธบาทราชวรมหาวิหาร
วัดพระพุทธบาทราชวรมหาวิหาร เป็นพระอารามหลวงชั้นเอก ภายในมี ปูชนียสถานที่สำคัญคือ “รอยพระพุทธบาท” ที่ประทับไว้บนแผ่นหินเหนือไหล่เขาสุวรรณบรรพต หรือเขาสัจจพันธคีรี รอยพระบาทมีความ กว้าง 21 นิ้ว ยาว 5 ฟุต ลึก 11 นิ้ว ไว้ให้ประชาชนได้สักการะ กราบไหว้ และนอกจากนี้ ภายในบริเวณวัดยังมี พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติพระพุทธบาท ( วิหารหลวง ) ซึ่งเป็นเก็บรวบรวมศิลปวัตถุอันมีค่ามากมาย โดยวิหารหลวงจะเปิดให้ชมเฉพาะช่วงที่มีงานเทศกาลนมัสการพระพุทธบาท และอีกหนึ่งความพิเศษทุกๆ วันเข้าพรรษาจะมีการตักบาตรดอกไม้หนึ่งเดียวในโลกอีกด้วย